
ประตูอัตโนมัติ (Automatic Door) ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีที่ช่วยให้การเข้าออกอาคารเป็นเรื่องง่าย แต่ยังเป็นฟีเจอร์สำคัญที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดการสัมผัสโดยไม่จำเป็น
บทความนี้จะพาคุณไปรีวิวการใช้งานจริงของ ประตูอัตโนมัติในสถานที่ต่าง ๆ และแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยได้อย่างไร พร้อมข้อมูลเปรียบเทียบและข้อดีของระบบนี้
ประตูอัตโนมัติคืออะไร และทำงานอย่างไร?
ประตูอัตโนมัติ เป็นประตูที่สามารถเปิด-ปิดได้เองโดยไม่ต้องใช้มือจับหรือแรงกายในการผลักดัน ส่วนใหญ่มักควบคุมผ่าน เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว (Motion Sensor), รีโมทคอนโทรล, ระบบคีย์การ์ด, หรือระบบไบโอเมตริกซ์ (Biometric System) เช่น สแกนใบหน้าหรือลายนิ้วมือ
ระบบการทำงานหลักของประตูอัตโนมัติ
- เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว (Motion Sensor) – เปิดประตูโดยอัตโนมัติเมื่อมีคนเดินเข้าใกล้
- ระบบกดปุ่ม (Push Button System) – เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการควบคุมการเปิด-ปิด
- ระบบรีโมทคอนโทรล (Remote Control System) – ควบคุมประตูจากระยะไกล
- ระบบคีย์การ์ด (Keycard System) – ใช้สำหรับอาคารสำนักงานและโรงแรมที่ต้องการควบคุมการเข้าออก
- ระบบสแกนลายนิ้วมือ / ใบหน้า (Biometric Access Control) – เหมาะกับสถานที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง
รีวิวการใช้งานจริงของประตูอัตโนมัติในสถานที่ต่างๆ
1. ประตูอัตโนมัติในห้างสรรพสินค้า – ลดการสัมผัส เพิ่มความสะดวก
สถานการณ์: ห้างสรรพสินค้าเป็นสถานที่ที่มีคนเข้าออกจำนวนมากทุกวัน
ประโยชน์ที่ได้รับ:
ลดการสัมผัสประตู ช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อโรค
รองรับลูกค้าทุกกลุ่ม รวมถึงผู้ที่ใช้รถเข็นเด็กและรถเข็นผู้พิการ
ควบคุมการไหลของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงเวลาที่คนเยอะ
ตัวอย่างการใช้งานจริง:
🔹 ห้างสรรพสินค้า The Mall และ Central ใช้ ประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ บริเวณทางเข้า-ออกเพื่อรองรับลูกค้าจำนวนมาก
🔹 ร้านค้าแบรนด์เนมบางแห่งใช้ ประตูหมุนอัตโนมัติ (Revolving Door) เพื่อควบคุมอุณหภูมิภายในร้าน
2. ประตูอัตโนมัติในโรงพยาบาล – ความปลอดภัยที่เหนือกว่า
สถานการณ์: โรงพยาบาลต้องการควบคุมการเข้าออกเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค
ประโยชน์ที่ได้รับ:
ลดการสัมผัส ลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อโรค
ประตูอัตโนมัติในห้องปลอดเชื้อช่วยกักเก็บอากาศ ป้องกันเชื้อโรคแพร่กระจาย
ระบบล็อกอัตโนมัติช่วยควบคุมการเข้า-ออกของบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต
ตัวอย่างการใช้งานจริง:
🔹 โรงพยาบาลกรุงเทพ และ สมิติเวช ใช้ ประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ ในห้องฉุกเฉินและห้องผ่าตัด
🔹 ระบบ Biometric Access Control ใช้ในห้องปลอดเชื้อและห้องยา
3. ประตูอัตโนมัติในอาคารสำนักงาน – ควบคุมการเข้า-ออกอย่างมีประสิทธิภาพ
สถานการณ์: องค์กรและอาคารสำนักงานต้องการระบบรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
ประโยชน์ที่ได้รับ:
ลดความเสี่ยงจากบุคคลภายนอกที่ไม่ได้รับอนุญาต
รองรับการเข้า-ออกของพนักงานโดยใช้คีย์การ์ดหรือสแกนใบหน้า
ประหยัดพลังงานด้วยระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ
ตัวอย่างการใช้งานจริง:
🔹 อาคาร True Digital Park และ G Tower ใช้ ระบบคีย์การ์ดและสแกนลายนิ้วมือ
🔹 ห้องประชุมสำคัญขององค์กรระดับโลกใช้ Smart Access Control
4. ประตูอัตโนมัติในโรงงานอุตสาหกรรม – ลดต้นทุน เพิ่มความปลอดภัย
สถานการณ์: โรงงานผลิตสินค้าและโกดังสินค้าต้องการควบคุมประตูให้เปิด-ปิดอย่างรวดเร็ว
ประโยชน์ที่ได้รับ:
ลดระยะเวลาการเปิด-ปิดประตู ลดการสูญเสียอุณหภูมิในห้องแช่เย็น
ระบบตรวจจับยานพาหนะช่วยให้รถขนส่งสามารถผ่านเข้า-ออกได้สะดวก
ป้องกันอุบัติเหตุจากการปิดกระแทก
ตัวอย่างการใช้งานจริง:
🔹 โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ใช้ ประตูอัตโนมัติแบบ High-Speed
🔹 คลังสินค้าของ Shopee และ Lazada ใช้ เซ็นเซอร์ตรวจจับยานพาหนะ
สรุป – ประตูอัตโนมัติช่วยเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยได้อย่างไร?

1. ความสะดวกสบาย
✅ ไม่ต้องใช้มือสัมผัส ลดความยุ่งยาก
✅ รองรับการเข้าออกของคนจำนวนมาก
2. ความปลอดภัยสูง
✅ ป้องกันการบุกรุกด้วยระบบล็อกอัจฉริยะ
✅ ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ
3. ประหยัดพลังงาน
✅ ควบคุมอุณหภูมิ ลดค่าไฟฟ้า
4. เหมาะกับทุกสถานที่
🏢 ห้างสรรพสินค้า – ลดการสัมผัส รองรับลูกค้าจำนวนมาก
🏥 โรงพยาบาล – ลดการแพร่กระจายเชื้อโรค
💼 อาคารสำนักงาน – ควบคุมการเข้าออก
🏭 โรงงานอุตสาหกรรม – ลดต้นทุน เพิ่มความปลอดภัย
📢 สนใจติดตั้งประตูอัตโนมัติ? ติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญด้านระบบอัตโนมัติเพื่อขอคำปรึกษาและใบเสนอราคาวันนี้! 🚀