
กันสาดหน้าบ้านไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันแดดและฝน แต่ยังมีผลต่อการลดค่าไฟฟ้าได้อีกด้วย หลายคนอาจสงสัยว่าการติดกันสาดหน้าบ้านสามารถช่วยให้บ้านเย็นขึ้นจริงหรือไม่ และมีเทคนิคอะไรบ้างที่ช่วยให้ประหยัดพลังงานได้มากขึ้น? บทความนี้จะพาคุณไปหาคำตอบ!
กันสาดหน้าบ้านช่วยลดค่าไฟได้อย่างไร?
1. ลดอุณหภูมิภายในบ้าน
- กันสาดหน้าบ้านช่วยป้องกันแสงแดดโดยตรงจากการกระทบกับผนังและกระจกหน้าต่างของบ้าน
- เมื่อภายในบ้านร้อนน้อยลง เครื่องปรับอากาศก็ทำงานลดลง ส่งผลให้ใช้พลังงานน้อยลง
- จากการศึกษาพบว่าการใช้กันสาดสามารถช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้านได้ถึง 3-5°C
2. ลดการใช้เครื่องปรับอากาศ
- เมื่อกันสาดหน้าบ้านช่วยกันความร้อนจากภายนอก บ้านจึงไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศมากเท่าเดิม
- การลดอุณหภูมิภายในเพียง 1°C สามารถช่วยลดค่าไฟได้ถึง 5-10%
- บ้านที่ติดตั้งกันสาดสามารถลดการใช้พลังงานจากเครื่องปรับอากาศได้ถึง 20-30%
3. ช่วยเพิ่มแสงธรรมชาติ ลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวัน
- กันสาดหน้าบ้านแบบโปร่งแสงสามารถให้แสงธรรมชาติเข้ามาในบ้าน โดยไม่ทำให้ร้อนจนเกินไป
- ลดการเปิดไฟในช่วงกลางวัน ช่วยลดค่าไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เทคนิคเลือกกันสาดเพื่อลดความร้อนและประหยัดพลังงาน

1. เลือกวัสดุที่ช่วยสะท้อนความร้อน
วัสดุ | ความสามารถในการสะท้อนความร้อน | ความทนทาน |
ไวนิล | สูงมาก | ทนแดดและฝนดีเยี่ยม |
เมทัลชีทเคลือบฉนวน | สูง | ป้องกันความร้อนได้ดี แต่ต้องติดฉนวน |
โพลีคาร์บอเนตกัน UV | ปานกลาง | ให้แสงผ่านได้ แต่ต้องเลือกแบบกันความร้อน |
ผ้าใบกัน UV | ปานกลาง | ยืดหยุ่น ปรับใช้งานง่าย |
2. เลือกสีของกันสาดให้เหมาะสม
- กันสาดสีอ่อน เช่น ขาว ครีม เทาอ่อน สามารถสะท้อนแสงแดดได้ดี ช่วยลดการสะสมความร้อน
- กันสาดสีเข้ม เช่น ดำ น้ำตาล เทาเข้ม อาจดูดซับความร้อนมากขึ้น ทำให้พื้นที่ใต้กันสาดร้อนกว่าเดิม
3. เลือกดีไซน์ให้เหมาะกับทิศทางแดด
- บ้านหันหน้าทิศตะวันตกและทิศใต้ ควรใช้กันสาดที่มีระยะยื่นยาวและมีฉนวนกันความร้อน
- บ้านหันหน้าทิศตะวันออก ควรเลือกกันสาดโปร่งแสงเพื่อให้ได้รับแสงธรรมชาติในตอนเช้า แต่ไม่ร้อนเกินไป
- บ้านหันหน้าทิศเหนือ กันสาดสามารถมีขนาดเล็กลงได้ เพราะรับแดดน้อยกว่าทิศอื่น
4. เพิ่มต้นไม้หรือวัสดุธรรมชาติเพิ่มร่มเงา
- ปลูกต้นไม้ขนาดกลางหรือใหญ่ใกล้กับกันสาด ช่วยให้ร่มเงาธรรมชาติลดความร้อนได้ดีขึ้น
- ใช้ไม้ระแนงหรือซุ้มระแนงร่วมกับกันสาด เพื่อเพิ่มพื้นที่กรองแสงและระบายอากาศ
กันสาดแบบไหนช่วยประหยัดพลังงานได้ดีที่สุด?
ประเภทกันสาด | คุณสมบัติเด่น | เหมาะกับบ้านแบบไหน? |
กันสาดไวนิล | สะท้อนความร้อนสูง กันน้ำ 100% | บ้านที่ต้องการลดความร้อนสูงสุด |
กันสาดเมทัลชีทฉนวนกันร้อน | แข็งแรง กันแดดดีเยี่ยม | บ้านที่ต้องการโครงสร้างแข็งแรง ทนทาน |
กันสาดโพลีคาร์บอเนตกัน UV | ให้แสงผ่าน ลดการใช้ไฟฟ้า | บ้านที่ต้องการแสงธรรมชาติแต่ยังต้องการกันความร้อน |
กันสาดผ้าใบพับเก็บได้ | ปรับการใช้งานได้ตามสภาพอากาศ | บ้านที่ต้องการความยืดหยุ่น ปรับร่มเงาได้ |
เทคนิคเพิ่มเติมในการลดค่าไฟจากความร้อน

1. ใช้ม่านหรือฟิล์มกรองแสงร่วมกับกันสาด
- ติดตั้งม่านกันแดดหรือฟิล์มกรองแสงที่หน้าต่าง เพื่อช่วยลดความร้อนเพิ่มเติม
- ฟิล์มกรองแสงที่ดีสามารถลดรังสี UV ได้ถึง 80%
2. ใช้ฉนวนกันความร้อนใต้หลังคาและผนัง
- ช่วยลดการสะสมความร้อนภายในบ้าน และลดภาระของเครื่องปรับอากาศ
- แนะนำให้ใช้ฉนวนที่มีค่า R-Value สูง เช่น โฟม PU หรือแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์
3. เลือกสีทาภายนอกบ้านที่ช่วยสะท้อนความร้อน
- สีทาผนังโทนอ่อน เช่น สีขาว ครีม เทาอ่อน ช่วยสะท้อนแสงแดดได้ดีกว่าสีเข้ม
- ลดการดูดซับความร้อนเข้าสู่ภายในบ้าน
4. ติดตั้งระบบระบายอากาศเพิ่มเติม
- ใช้พัดลมระบายอากาศใต้หลังคาเพื่อลดการสะสมของความร้อน
- ใช้ช่องระบายอากาศหรือหน้าต่างที่สามารถเปิดเพื่อให้ลมไหลเวียนได้ดีขึ้น
สรุป – กันสาดช่วยลดค่าไฟได้จริงหรือไม่?

✅ กันสาดช่วยลดค่าไฟได้จริง เพราะช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้าน ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง ✅ เลือกวัสดุที่สะท้อนความร้อน เช่น ไวนิล เมทัลชีทฉนวน หรือโพลีคาร์บอเนตกัน UV ✅ ออกแบบกันสาดให้เหมาะกับทิศทางแดด เพื่อให้ร่มเงามากที่สุด ✅ ใช้เทคนิคเพิ่มเติม เช่น ปลูกต้นไม้ ติดฟิล์มกันร้อน และใช้ฉนวนกันความร้อน
หากคุณต้องการให้บ้านเย็นขึ้นและประหยัดพลังงาน การติดกันสาดหน้าบ้านเป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลดีในการลดค่าไฟอย่างยั่งยืน!